เชียงรายแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ฟังเนื้อหา
Getting your Trinity Audio player ready...

กาแฟเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดของเชียงราย และสามารถพูดได้เต็มปากว่าทุกวันนี้กาแฟที่ดีที่สุดในประเทศคือกาแฟจากเชียงราย เนื้อหาบทนี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อแบ่งแยกว่าพื้นที่ไหนจังหวัดไหนปลูกกาแฟได้ดีกว่ากัน แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลของคุณค่าของสิ่งที่จังหวัดเชียงรายมี เช่นกาแฟ โดยมีข้อมูลเชิงปริมาณในการอ้างอิง

แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเชียงรายปลูกกาได้ดีที่สุด ก็วัดได้จากปริมาณที่กาแฟที่ส่งไปตามพื้นที่ต่างๆในประเทศเพื่อเอาไปทำกาแฟในตามร้านต่างๆทั่วประเทศ และปริมาณที่ส่งออกไปต่างประเทศ

และจำนวนร้านกาแฟที่มีอยู่ในจังหวัดที่เรียกว่ามีร้านกาแฟอยู่บนถนนแทบทุกเส้นในจังหวัด ยิ่งในตัวเมืองในรัศมี 100 เมตรเรียกได้ว่าต้องมีร้านกาแฟไม่ต่ำกว่า 3-4 ร้าน นอกจากนั้นแล้วสามารถวัดได้จากรางวัลระดับโลกที่กาแฟที่ปลูกในเชียงรายได้รับ

อ้างอิงข้อมูลจากงาน Chaing Rai ASEAN Coffee & Tea 2018 ที่จัดขึ้นที่ เอ็มควอเทียร์ ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2561 จังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิก้า กว่า 38,000 ไร่ ปริมาณผลผลิต 4,355 ตัน และถือเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตกาแฟเยอะที่สุดในภาคเหนือ

เมื่อปี 2559 สหภาพยุโรป (EU) ได้ขึ้นทะเบียนรับรองกาแฟดอยตุงและกาแฟดอยช้างของจังหวัดเชียงรายเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในระดับสากล นั่นแสดงว่ากาแฟจากจังหวัดเชียงรายเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก

กาแฟจากป่าธรรมชาติ กาแฟที่ได้รับรองเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ระดับโลกของไทยคือกาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุง นอกจากนี้ยังมีกาแฟ “เกชา” หรือ “เกอิชา” (Gesha/Geisha) ซึ่งเป็นกาแฟอาราบิกาชั้นเลิศของโลก สายพันธ์จากประเทศเอธิโอเปีย ที่นำมาปลูกบนดอยช้างและให้ผลผลิตได้เป็นอย่างดี

ซึ่งกาแฟเกอิชานั้นเป็นกาแฟที่ให้รสอ่อนไม่ขม รสชาติจะออกหวานคล้ายส้ม และให้กลิ่นอ่อนของผลไม้ นอกจากนี้ยังมีการแจกต้นกาแฟ

แต่ถ้าหากจะวัดกันที่ปริมาณกันจริงๆ ชุมพรจะเป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศด้วนพื้นที่ประมาณ 104,000 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่เก่าแก่ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยมีผลผลิตประมาณ 12,000 ตันต่อปี

ส่วนกาแฟของจังหวัดเชียงรายนั้น ถือว่ามีจุดเด่นที่เป็นข้อได้เปรียบแหล่งปลูกอื่นๆของไทย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

ประกอบกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟของจังหวัดเชียงรายเองก็ได้รับการส่งเสริมทั้งด้านการปลูก การแปรรูป และการตลาดจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 30 ปี จนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการปลูกและการผลิตกาแฟอย่างครบวงจร

เมื่อเทียบกับกาแฟจากพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศแล้วกาแฟของจังหวัดเชียงราย มีคุณภาพสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีกลิ่นหอม มีรสชาติกลมกล่อม เจือรสเปรี้ยวนิดๆ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอ และมีปริมาณสารคาเฟอีนต่ำ ซึ่งต่างจากกาแฟในแหล่งอื่นๆ (อ้างอิงจากนายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย ในงาน Chiang Rai ASEAN Coffee & Tea 2018)

เรามาดูกันดีกว่าว่าที่เชียงรายเขาปลุกกาแฟในพื้นที่ไหนและพันธุ์อะไรบ้าง

แหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญของเชียงราย

กาแฟดอยตุง

ในดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอกของจังหวัดเชียงราย มีเรื่องราวของกาแฟที่ไม่เพียงเป็นเครื่องดื่ม แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการพัฒนาที่ยั่งยืน กาแฟดอยตุง ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์กาแฟไทยยุคบุกเบิกที่เติบโตจากพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ผ่านโครงการพัฒนาดอยตุง

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โครงการนี้มิได้มุ่งเพียงปลูกกาแฟ แต่ยังมอบโอกาสให้ชุมชนบนดอยได้มีอาชีพที่มั่นคง คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นที่ผสานความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน

พื้นที่ปลูกกาแฟดอยตุงครอบคลุม 29 หมู่บ้านในอำเภอแม่ฟ้าหลวงและอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นดินแดนที่โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจีและทิวทัศน์อันตระการตา กาแฟที่ปลูกที่นี่คือพันธุ์อาราบิกาอันเลื่องชื่อ

พันธุ์อาราบิกาเกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสามสายพันธุ์ ได้แก่ คาติมอร์ (CatiMor), คาทูรา (Caturra) และ คาทุย (Catuai) ผลลัพธ์คือกาแฟที่มีกลิ่นหอมละมุนราวกับดอกไม้ป่าบนยอดดอย รสชาติกลมกล่อมที่ชวนให้จิบทุกคำด้วยความสุข และเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงความพิถีพิถันของเกษตรกรชาวดอยตุง

กาแฟดอยตุงไม่เพียงเป็นเครื่องดื่มที่เติมพลังยามเช้า แต่ยังเป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ทุกเมล็ดกาแฟเล่าเรื่องราวของความทุ่มเท ความภาคภูมิใจ และมรดกของแผ่นดินไทยที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

ไม่ว่าคุณจะดื่มกาแฟดอยตุงที่ร้านกาแฟในเมืองหรือนั่งจิบท่ามกลางสายหมอกบนดอย คุณกำลังสัมผัสถึงรสชาติของความหวังและความผูกพันกับผืนดินแห่งนี้

กาแฟดอยช้าง

เกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่ปี 2512 เพื่อให้เกษตรกรบนพื้นที่ดอยได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงชาวไทยภูเขาบนดอยช้าง ให้มีอาชีพที่ยั่งยืนมั่นคง แก้ปัญหาการทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่น โดยได้พระราชทานต้นกล้ากาแฟสายพันธุ์อะราบิกาให้ชาวบ้านดอยช้างจำนวน 40 ครอบครัว

กว่า 40 ปีกาแฟดอยช้างได้ถูกพัฒนากลายเป็นกาแฟที่ดีมีคุณภาพระดับโลก เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกในชื่อ “กาแฟดอยช้าง” ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินอล จำกัด ซึ่งมีสมาชิกเป็นเกษตรกรในหมู่บ้านดอยช้างหลายพันครัวเรือน

ปัจจุบันดอยช้างได้กลายเป็นแหล่งผลิตกาแฟแห่งเดียวในโลกที่ผลิตกาแฟแบบครบวงจร นับตั้งแต่ปลูก เก็บผลผลิต ลงเครื่องคั่ว ส่งออกขายเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว และขายเป็นกาแฟสำเร็จรูป

กล่าวคือเกษตรกรทำกันเองตั้งแต่ปลูก ตาก คั่ว บด และบรรจุผลิตภัณฑ์ มีร้านกาแฟตั้งอยู่บนดอยช้างรองรับนักท่องเที่ยวด้วย ทั้งยังมีการสร้างแบรนด์กาแฟดอยช้างเพื่อส่งออกขายไปยังต่างประเทศ นอกจากนั้นแล้วกาแฟดอยช้างยังได้รับรางวัลระดับโลกมากมาก ตัวอย่างเช่น

  • ได้รับมาตรฐานระดับสากล อาทิ USDA Organic, EU Organic Farming, EU Geographical Indication และ Specialty Coffee Association
  • ได้รับการยอมรับในเวทีระดับสากลในฐานะกาแฟเกรดพรีเมี่ยม ได้รับคะแนนรีวิวจาก Coffee Review ซึ่งเทียบได้กับ Michelin Star ในวงการกาแฟ ให้คะแนนกาแฟดอยช้างสูงถึง 90/100
  • ได้รับการยอมรับจาก Coffee Cupping สถาบันที่จัดแข่งขันคุณภาพกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก

กาแฟดอยวาวี

เป็นทั้งชื่อแหล่งที่ปลูกก็คือดอยวาวีนั่นเอง และเชื่อแบรนด์ของร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเชียงใหม่และเปิดร้านแห่งแรกที่เชียงใหม่ จริงๆแล้วกาแฟที่ร้านใช้ประมาณ 70% ปลุกที่ดอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ส่วนที่เหลืออีก 30% มาจากกาแฟที่ปลุกบนดอยอิททนนท์

จุดเริ่มต้นของร้านกาแฟวาวี เริ่มจากหลังวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เอเยนซี่หนุ่มในวงการธุรกิจโฆษณา ชื่อ ไกรสิทธิ์ ฟูสุวรรณ ได้ทิ้งอาชีพโฆษณาและหันมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ภายใต้แบรนด์ “กาแฟวาวี” (WAWEE COFFEE) และสามารถขยับขยายสาขามากกว่า 50-60 แห่ง พร้อมสร้างแบรนด์ในฐานะกาแฟไทยออร์แกนิกระดับพรีเมี่ยม

ล่าสุดในปี 2561 กลุ่มธุรกิจยักษ์บีเจซี ในเครือข่าย คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ซื้อ แบรนด์กาแฟวาวี ด้วยทุน 2000 ล้านบาท พร้อมมีแผนรุกเปิดสาขาใหม่ 1000 สาขาภายใน 5 ปี

กาแฟอาข่า อ่ามา

เป็นชื่อของแบรนด์เมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ก่อตั้งโดย อายุ จือปา ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มชาวอาข่า โดยใช้ผลผลิตกาแฟจากแหล่งปลูกกาแฟในหมู่บ้านแม่จันใต้ ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่บนพื้นที่สูง 1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล ในเชิงภูมิศาสตร์ ที่นี่คือแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟชั้นดีที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ป่าไม้และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

กว่า 10 ปีกับการพัฒนาคุณภาพของกาแฟอาข่า อาม่า ปัจจุบันได้ส่งเมล็ดกาแฟไปขายในหลายประเทศ และได้รับการรันตีด้านคุณภาพในระดับสากลแล้ว โดยได้รับคัดเลือกจากสมาคมกาแฟชนิดพิเศษแห่งยุโรป เพื่อใช้ในงานชิมกาแฟนานาชาติ ถึง 3 ปีซ้อน ที่ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์และออสเตรีย

กาแฟปางขอน

กาแฟปางขอนไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นผลผลิตที่สะท้อนความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง หมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายเพียง 30 กิโลเมตร

พื้นที่ดังกล่าวอยู่ท่ามกลางผืนป่าธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ในเขต สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ซึ่งโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และสายน้ำลำธารที่ไหลรินอย่างไม่ขาดสาย ด้วยความสูง 1,200-1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล และอากาศเย็นสบายที่อุณหภูมิ 9-13 องศาเซลเซียส พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นสวรรค์ของการปลูกกาแฟที่หาได้ยาก

สิ่งที่ทำให้กาแฟจากบ้านปางขอนและบ้านห้วยชมภูพิเศษไม่เหมือนใครคือสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ เมล็ดกาแฟที่นี่เติบโตอย่างช้าๆ ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ซึ่งไม่เพียงช่วยปกป้องจากแสงแดดจัด แต่ยังให้โอกาสเมล็ดกาแฟได้ซึมซับสารอาหารและรสชาติจากผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ของขุนเขา

ผลลัพธ์ที่ได้คือกาแฟที่มีความเข้มข้น กลมกล่อม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว—ราวกับเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่ส่งต่อผ่านทุกหยดของรสชาติ

เดินทางต่อไปกับเรา

วันนี้เราได้พาคุณมาสัมผัสเรื่องราวของกาแฟจากไร่เชียงรายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่ความอร่อยยังไม่หยุดอยู่แค่นี้! ในตอนต่อไป เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ร้านกาแฟที่อร่อยที่สุดในเชียงราย ที่ไม่เพียงเสิร์ฟรสชาติกาแฟแท้จากขุนเขา แต่ยังมอบประสบการณ์ที่ชวนให้หลงใหล โปรดติดตามอ่านและเตรียมพบกับการเดินทางแห่งรสชาติที่คุณจะไม่มีวันลืม!

อ่าน ร้านกาแฟที่อร่อยที่สุดในเชียงราย

แชร์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *