สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดเมื่อมาเที่ยวเชียงราย

เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินมาเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ด้วยมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเชียงราย คือเป็นเมืองเหนือสุดของไทย เป็นดินแดนแห่งขุนเขาและทะเลหมอกหลายจุด นอกจากนั้นแล้วยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู

เชียงรายมีเอกลักษณ์เฉพาะ พรั่งพร้อมทั้งความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนา ความเป็นมิตรและความอ่อนโยนของผู้คนในพื้นที่ หลายๆสิ่งจึงได้ผสมผสานกันเป็นเสน่ห์ที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง เชียงรายจึงหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวอันดับต้นๆของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อ้างอิงจาก “สวนดุสิตโพล” ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,148 คน ปลายปี 2565 ผลการสำรวจออกมาพบว่าจังหวัดเชียงรายติด 1 ใน 5 จังหวัดที่น่าเที่ยวมากที่สุดหลังโควิด 

หากอ้างอิงจาก สรุปสถานการณ์พักแรม จำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน เดือนมกราคม ถึงกันยายน 2566 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าจังหวัดเชียงรายมีรายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทยด้วยกันเองอยู่อับดับที่ 5 ของประเทศ รองจาก กรุงเทพฯ ชลบุรี (รวมถึงพัทยา) เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ โดยมาตัวเลขรายได้ จากการท่องเที่ยว 10 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 26,213 ล้าน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 21.5%

จากสถิติเดียวกันตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติในระยะเวลาเดียวกัน เชียงรายอยู่อันดับ 8 รองจาก กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ สงขลา และ พังงา โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติอยู่ที่ 6,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 494% หรือเกือบ 5 เท่า แน่นอนคาดว่าเป็นผลมาจากการพื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤติโควิด 19

ที่ร่ายยาวมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เห็นว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีคนสนใจและเดินทางมาเยี่ยมเยือนจำนวนมาก ก็จะเห็นสื่อในรูปแบบต่างแนะนำให้ทำนู่นนี่ หรือต้องไปที่นั่นที่นี่ ถ้าไม่ทำ ไม่ไป ไม่กิน อย่างที่ว่าถือว่าไปไม่ถึง แต่ไม่ค่อยเห็นมีใครออกมาแนะนำว่าไปเชียงรายอะไรที่ไม่ควรทำที่สุด

วันนี้ทาง ChirangRaiBest.com จะแนะและให้ข้อมูลว่ามาเชียงรายแล้วอะไรที่ไม่ควรทำที่สุด บางคนอาจจะมองข้ามไป หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่เห็นต้องมาเตือนมาบอกอะไร แต่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่สำคัญ ในฐานะคนพื้นเหนือแท้ๆเลยใช้โอกาสนี้แนะถึงความสำคัญอีกครั้ง

สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดในเชียงรายคือ การลองกิน “ของดิบ” เพราะเชียงรายมีเมนูของดิบแบบต่างๆที่ยั่วยวนชวนให้ลองจนบางครั้งยากที่จะหักห้ามใจได้ ไม่ว่าจะเป็น ลาบดิบ ลาบเลือด ก้อย ซ่า หลู้ มีทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย แม้กระทั่งไก่บางพื้นที่นิยมกินลาบไก่ดิบ หรือเนื้อสัตว์ป่าดิบๆ

นอกจากหมูและเนื่อแล้วยังมี ลาบปลาดิบ กุ้งเต้น เมนูที่กล่าวมาถือว่าเป็นเมนูยอดฮิตของเชียงรายและหลายจังหวัดในภาคเหนือของคนที่ชอบกินของดิบ แต่ละอย่างมีการปรุงและสีสันน่าลองซักครั้งมาก ให้สมกับคำว่ามาเชียงรายทั้งที่ไม่ได้กินลาบ หลู ซ่า ถือว่ายังมาไม่ถึง จงอย่าได้หลงกลคำยั่วยุเชื้อเชิญคำนี้ไม่ว่าที่เชียงรายหรือที่อื่นๆ

อาจจะมีคนสงสัยว่าแล้วชาวบ้านเขากินของดิบมาทั้งชีวิตไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นยังใช้ชีวิตปรกติ ในความเป็นจริงแล้วมีชาวบ้านป่วยจากการกินอาหารดิบๆในแต่ละปีเยอะมาก เพียงแต่ไม่เป็นข่าวถ้าไม่มีการเจ็บป่วยพร้อมๆกันหลายๆคนหรือทั้งหมู่บ้านถึงจะเป็นข่าวทีนึง

อาการเจ็บป่วยที่มาสาเหตุมาจากการกินของดิบๆในภาคเหนือมักไม่ถูกเผยแพร่เพราะเมื่อชาวบ้านป่วยจากโรคต่างๆก็ไปหาหมอตามปรกติ เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากการติดเชื้อ กล้ามเนื้อไม่ทำงาน หัวใจวาย หรือเสียชีวิตฉับพลัน

เมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นคนจำนวนไม่น้อยเลยไม่ได้มีการติดใจสงสัยของสาเหตุซักเท่าไหร่ จึงไม่มีการชันสูตรศพหรือหาสาเหตุที่แท้จริงซึ่งเป็นไปได้ว่าในจำนวนนั้นอาจจะมาจากเชื้อแบคทีเรีย หรือพยาธิที่อยู่ในอาหารดิบ ความน่ากลัวของอาหารดิบจึงไม่ถูกเปิดเผยเท่าไหร่นัก

ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดเมื่อปลายปี 2565 สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเข้าข่ายโรคหูดับ ใน อ.เทิง มากถึง 12 คน โดยผู้ป่วยกระจายรายอยู่ในพื้นที่หลายตำบล

ผู้ป่วยได้รับการตรวจเบื้องต้น และส่งตัวมาจาก รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ มีผลยืนยันว่าพบอาการติดเชื้อทางสมองหรือภาวะสมองอักเสบ หนึ่งในจำนวนผู้ป่วยดังกล่าวเป็นญาติของผมเอง ซึ่งตอนนี้ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้วหูไม่สามารถได้ยินได้เหมือนปรกติแล้ว

จากการตรวจสอบผมว่าผู้ที่รับประทานหมูดิบ และมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ปวดศรีษะ ปวดตามร่างกาย มีอาการทางสมอง ตอบสนองช้า ซึมลง ชักเกร็ง หรือสุดท้ายหูไม่ได้ยิน นี่เป็นแค่หนึ่งตัวอย่างที่ไม่ได้เป็นข่าวดัง และมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้นับไม่ถ้วน

ลองมาดูว่ามีการกินอาหารดิบๆมีความเสี่ยงต่ออันตรายแบบไหนบ้าง

1. เชื้อแอนแทรกซ์ 
หากกินเนื้อที่มีเชื้อนี้เข้าไป จะเกิดการติดแอนแทรกซ์ในทางเดินอาหาร เกิดอาการอ้วกเป็นเลือด ถ่ายท้องรุนแรง ในรายที่เป็นมากก็ติดเชื้อในกระแสเลือดถึงแก่ความตายได้

2. ไข้สมองอักเสบหูดับ 
เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอีส เมื่อกินเข้าไปและเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะขึ้นไปที่เยื่อหุ้มสมองและติดเชื้อแถวนั้น ทำให้เกิดไข้สูง เพ้อ สับสน ถ้ารักษาไม่ทันก็ถึงแก่ความตายได้ หรือในรายที่รักษาทัน ก็มักจะมีอาการหูหนวกถาวรตามมาจากการอักเสบของเส้นประสาทการได้ยิน

3. พยาธิทริคิโนซีส 
พอบอกว่าเป็นพยาธิคนอาจจะเฉยๆ แต่พยาธิชนิดนี้เมื่อเรากินเข้าไปมันจะฟักตัวออกมาแล้วไชไปที่กล้ามเนื้อต่างๆของร่างกายจนปวดรุนแรงทั่วตัว และในกรณีที่มันไปที่กล้ามเนื้อกะบังลม ก็อาจจะทำให้เกิดอาการหายใจไม่ได้ เสียชีวิตได้ หากไม่มีการผ่าชันสูตรศพก็อาจเข้าใจว่าเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว หรือโรคอื่นๆที่เกี่ยวกับหัวใจ ทำให้คนไม่ตระหนักถึงความน่ากลัวของพยาธิชนิดนี้

4. โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร 
ท้องเสีย อาเจียน บางรายถ่ายเป็นเลือด ซึ่งถ้าโชคไม่ดีอาการเป็นเยอะ เชื้อเข้ากระแสเลือดได้ก็ตาย

5. พยาธิตัวตืด 
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อพยาธิตัวตืดในลำไส้มักไม่มีอาการของโรคปรากฏ แต่บางรายอาจมีอาการป่วยแสดงออกมาหากพยาธิเคลื่อนไหวอยู่ในลำไส้ อาการจะขึ้นอยู่กับชนิดของพยาธิตัวตืดและตำแหน่งที่พยาธิอาศัยอยู่ หากตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดเคลื่อนออกจากลำไส้แล้วสร้างถุงหุ้มตัวเองเป็นตัวอ่อนเม็ดสาคูตามเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย จะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ เกิดอาการแพ้ ติดเชื้อแบคทีเรีย มีถุงน้ำหรือก้อนเนื้อตามร่างกาย หรืออาจส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ถูกทำลาย เช่น ดวงตา ตับ หัวใจ และสมอง โดยเฉพาะหากมีตัวอ่อนเม็ดสาคูในสมองและไขสันหลัง จะทำให้มีอาการของโรคในระบบประสาท รวมทั้งเกิดอาการชักได้

6. โรคพิษสุนัขบ้า 
หากนำเนื้อวัวควายที่ตายแบบไม่ทราบสาเหตุมากิน แล้วไปเจอวัวควายที่ตายจากโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งคนแล่เนื้อ คนทำอาหาร ไปจนถึงคนกินดิบๆ อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ได้ ซึ่งถ้าเป็นและมีอาการ หากติดโรคพิษสุนัขบ้าแบบไม่ทันฉีดยาป้องกันมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก

7. บรูเซลโลซิส 
โรคแท้งติดต่อ เป็นโรคที่สำคัญในสัตว์เพราะทำให้แท้งแบบไม่ทราบเหตุ ในคนพบไม่บ่อยนักแต่เวลาเป็นจะลำบากเพราะอาการจะเป็นไข้ที่หาเหตุไม่เจอ มีไข้ ปวดตามตัว ปวดข้อ น้ำหนักลด เป็นฝีในตับในม้าม คือกว่าจะหาเจอและรักษาได้ ก็อาจจะต้องนอนป่วยหลายเดือน

ดังนั้น หากอยากจะกินลาบสดลาบดิบลาบเลือด ของวัวควาย ก็ต้องเลือกที่ไม่มีโรค ซึ่งทางเดียวที่จะทำได้คือการเลี้ยงในระบบปิด ให้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอยู่ตลอด ให้กินอาหารที่ดี ในประเทศญี่ปุ่นหรือออสเตรเลียเขาถือเป็นมามตรฐานปรกติ แต่ประเทศไทยยังไปไม่ถึงจุดนั้น

ทางที่ดีที่สุดไม่ว่าจะไปเที่ยวจังหวัดไหนไม่ควรลองเมนูอาหารดิบจะเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หากถูกชักชวนจากร้านค้าหรือเพื่อนฝูงหรือคนในพื้นที่จนอดใจไม่ไหวต้องถามตัวเองตอนนั้นเลยว่าจะกินไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไรกับการลองอาหารที่เสี่ยงต่ออันตรายแบบนี้ มันคุ้มแล้วหรือกับแลกประสบการณ์แบบสะใจๆกับสุขภาพและโรคภัยที่จะตามมาภายหลัง