ร้านอาหารลีลาวดี: ร้านใหญ่ริมน้ำกก บริการดีอาหารอร่อย แต่ไม่ถึงกับแสงออกปาก

ฟังเนื้อหา Getting your Trinity Audio player ready...

หากใครที่มีโอกาสแวะเวียนมาเที่ยวจังหวัดเชียงราย แล้วถามหาร้านอาหารพื้นเมืองหรือร้านอาหารไทยดีๆสเกลใหญ่ๆสักร้าน ส่วนใหญ่มักจะได้รับคำแนะนำวนเวียนอยู่กับเบญจเทพแห่งร้านอาหารเมืองเชียงราย

ไม่ว่าจะเป็น ร้านสลุงคำ ที่เก่าแก่ ร้านโตกตอง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดง หรือ ร้านหลู้ลำ ร้านอาหารเหนือแท้ที่ใครๆก็ต้องพูดถึง ร้านอาหารตองตึง ที่คนที่ชอบดูของเก่ารับรองดูกันเพลินแน่นอน แต่ยังมีอีกหนึ่งชื่อที่มักจะถูกเอ่ยถึงพร้อมๆ กันเสมอ นั่นก็คือ ร้านอาหาร ลีลาวดี เชียงราย (Leelawadee Restaurant Chiang Rai)

วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเจาะลึกร้านนี้กันแบบหมดเปลือก ว่ากันตามตรงแบบไม่อวย ดีก็ว่าดี ตรงไหนที่ต้องทำใจก็บอกกันตรงๆ ตามสไตล์คนกินจริงจ่ายจริง อย่างไรก็ตาม​เนื้อหานี้ไม่ได้มาเปรียบเทียบว่าร้าน ลีลาวดี หรือ ร้านหลู้ลำ ร้านไหนดีกว่ากันหรืออร่อยกว่ากัน

คู่แข่งที่หายใจรดต้นคอ: ลีลาวดี vs หลู้ลำ คู่ปรับตลอดกาล

เรื่องราวของร้านลีลาวดีนั้น แทบจะแยกไม่ออกจากการพูดถึงร้าน “หลู้ลำ” เพราะทั้งสองร้านนี้ตั้งอยู่ติดกันชนิดที่เรียกว่ารั้วชนรั้ว บนถนนแควหวาย ริมแม่น้ำกกเหมือนกัน เปรียบเสมือนมวยคู่เอกของเชียงรายที่สู้กันมาอย่างยาวนาน​

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ร้านหลู้ลำ คือตัวแทนของ “ความเก๋า” และความเป็นพื้นเมือง หากคุณต้องการพาเพื่อนจากกรุงเทพฯ มาสัมผัสรสชาติอาหารเหนือแต้ๆ แบบลาบขม ต้มขม แกงแค หรือบรรยากาศแบบบ้านๆ ดั้งเดิม หลู้ลำคือคำตอบ​

แต่ถ้าเป็น ร้านลีลาวดี ภาพลักษณ์จะดูเป็นทางการขึ้นมาอีกนิด ทันสมัยกว่าหน่อย และมีความเป็น “ร้านอาหารไทยภาคกลาง” ที่ผสมผสานอาหารพื้นเมืองเข้าไป

คือถ้าคุณพาผู้ใหญ่มา หรือพาแขกบ้านแขกเมืองมาเลี้ยงรับรอง แล้วกลัวว่าเขาจะกินอาหารเหนือรสจัดไม่ได้ ลีลาวดีคือตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า เพราะเมนูที่นี่เน้นรสชาติกลางๆ ที่คนทุกภาคทานได้ครับ​​

บรรยากาศ: วิวแม่น้ำกก และโซนสวน

จุดขายที่แข็งแกร่งที่สุดของลีลาวดี คงหนีไม่พ้น “ทำเล” ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเชียงราย ในช่วงยามเย็นพระอาทิตย์ตก บรรยากาศที่นี่จัดว่า “กินขาด” ลมพัดเย็นสบาย มีดนตรีสดเล่นคลอเบาๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมาะกับการสังสรรค์​

ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนริมน้ำซึ่งก็รวมโซนหน้าเวทีดนตรีสดด้วย และโซนในสวน โซนริมน้ำนั้นฮิตติดลมบนอยู่ตลอด ใครมาก็อยากจะแย่งกันไปนั่งตรงนั้นเพื่อเสพวิว ถ้าไม่มาก่อนหรือโชคดีจริงๆมักจะไม่ได้นั่งโซนริมน้ำ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจและเป็นปริศนาเล็กสำหรับผมเสมอคือโซนในสวน

โซนนี้อยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ 2-3 ต้นที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาอย่างสวยงาม แม้จะไม่ติดน้ำแบบประชิดขอบตลิ่ง แต่ก็มองเห็นวิวแม่น้ำได้ชัดเจน แถมยังเงียบสงบและเป็นส่วนตัวกว่ามาก

แต่เชื่อมั้ยครับว่าจากประสบการณ์หลายครั้งจะพบว่าถึงแม้โซนอื่นจะเต็มแต่โซนสวนมักจะว่างเสมอทั้งๆที่บรรยากาศดีมีความร่มรื่นของต้นไม้ใบไม้และวิวก็สวยไม่แพ้มุมอื่น เหมือนกับว่าลูกค้าส่วนใหญ่กลับมองข้ามโซนนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

และเรื่องที่งงอีกเรื่องแต่ละครั้งที่ไปพนักงานส่วนใหญ่มักจะไม่แนะนำโซนนี้และมักจะบอกว่า “โซนนี้อยู่ในสวนไม่ติดน้ำนะค่ะ” ซึ่งก็มักจะทำให้คนส่วนใหญ่เลิกโฟกัสไปโซนนี้ไปอัตโนมัติและพยายามจะไปหาที่โซนริมน้ำให้ได้ ถ้าคุณเป็นคนชอบความชิลและไม่อยากไปแออัด แนะนำให้ลองนั่งโซนสวนดูครับ แล้วคุณจะหลงรัก​

นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตเห็นได้ทันทีเมื่อเดินเข้าร้าน คือบรรดารูปถ่ายที่ใส่กรอบโชว์หราอยู่หน้าร้าน มีทั้งดารา นักร้อง นักการเมือง และคนดังจากหลากหลายวงการที่เคยแวะเวียนมาทาน นี่คือเครื่องการันตีทางสังคม (Social Proof) ว่าร้านนี้คือร้านระดับ “รับแขก” อันดับต้นๆของจังหวัด แม้ว่าร้านข้างๆอย่างหลู้ลำจะมีรูปเยอะกว่า (ซึ่งบ่งบอกถึงความแมสกว่า) แต่ลีลาวดีก็มีไม่น้อยหน้าใครครับ​

รสชาติอาหาร: อร่อยเกินมาตรฐานแต่ไม่ถึงกับแสงออกปาก

มาถึงเรื่องสำคัญที่สุดคือ “รสชาติ” จากประสบการณ์ที่ไปทานมาหลายครั้ง และจากเสียงตอบรับของคนรอบข้าง ต้องบอกกันตรงๆ ว่า รสชาติอาหารของลีลาวดีนั้นอยู่ในเกณฑ์ “ดี” ครับ คืออร่อย ได้มาตรฐาน วัตถุดิบสดสะอาด แต่ถ้าจะถามว่า “อร่อยว้าว” จนแสงออกปากไหม? คำตอบคือ “ยังไม่ถึงขั้นนั้น”​​

อาหารที่นี่รสชาติจะออกแนว “กลมกล่อม” ไม่จัดจ้านหรือโดดเด้งไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งข้อดีคือทานง่าย ถูกปากคนทั่วไป แต่สำหรับคออาหารที่แสวงหารสชาติที่ลึกซึ้งหรือจัดจ้านถึงใจ อาจจะรู้สึกว่ามัน “เพลย์เซฟ” ไปหน่อย

เมนูเด็ดที่มาแล้วต้องสั่ง (และเห็นสั่งกันแทบทุกโต๊ะ) ได้แก่:

• ปลาคังผัดฉ่า / ปลาบึกผัดฉ่า: จานนี้ทำได้ดีครับ เครื่องสมุนไพรถึง พริกไทยสด กระชาย มาเต็ม ดับคาวปลาได้ชะงัด เนื้อปลาสดเด้งสู้ฟัน​
• ต้มยำปลาคัง: รสชาติน้ำซุปเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี ซดคล่องคอ ปลาสดไม่คาว​
• แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน: ปลาทอดมาตัวใหญ่ กรอบนอกนุ่มใน น้ำแกงส้มเข้มข้น​
• ยำลีลาวดี: เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นยำรวมมิตรใส่ตะไคร้ซอยและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รสชาตินัวๆ เคี้ยวเพลิน​
• ออเดิร์ฟเมือง: แม้จะบอกว่าเป็นร้านเน้นอาหารภาคกลาง แต่ชุดออเดิร์ฟเมืองที่มีไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ก็ทำออกมาได้ดีมาก​​ น้ำพริกหนุ่มไม่เผ็ดมากและก็ไม่จืดชืดแบบไม่มีรสชาติ เรียกได้ว่าเป็นน้ำพริกหนุ่มแบบเหนือ 100% เมนูนี้มาแล้วต้องสั่งเป็นอย่างยิ่ง

สรุปเรื่องรสชาติคือ ถ้าคุณพาแขกมา คุณจะไม่เสียหน้า อาหารกินได้ทุกจาน ไม่แย่ แต่ถ้าคุณเป็นนักชิมสายแข็งที่ต้องการความพีคของรสชาติ ร้านอื่นในเชียงรายอาจจะตอบโจทย์ได้มากกว่าครับ

ราคาและความคุ้มค่า: จ่ายราคากรุงเทพฯเลยทีเดียวแต่ได้ปริมาณจุใจ

เรื่องราคาเป็นอีกประเด็นที่ต้องพูดถึงครับ ราคาอาหารที่ลีลาวดีจัดว่า “สูง” เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในเชียงราย ราคาเมนูทั่วไปเริ่มต้นที่จานละประมาณ 220 บาทขึ้นไป ส่วนเมนูปลาก็สตาร์ทที่ 350 บาท++ ซึ่งนี่มันเรตราคาเดียวกับร้านอาหารในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว​​

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะสิ่งที่แลกมากับราคานี้คือ “ปริมาณ” ครับ อาหารแต่ละจานที่นี่ให้มาเยอะมาก จานใหญ่แบบกินเอาอิ่ม ไม่ใช่จานเล็กจานน้อยแบบร้านคาเฟ่สมัยใหม่

• ถ้าคุณมากัน 1-2 คน: คุณอาจจะรู้สึกว่าแพง เพราะสั่งได้แค่ 2-3 อย่างก็จุกแล้ว และต้องจ่ายบิลหลักพัน ลักษณะแบบนี้คุณอาจจะรู้สึกว่ามันไม่คุ้ม
• ถ้าคุณมากัน 5-6 คนขึ้นไป: นี่คือความคุ้มค่าที่แท้จริงครับ เพราะคุณสามารถสั่งอาหารได้หลากหลายมาแชร์กัน และเมื่อหารเฉลี่ยต่อหัวออกมาแล้ว ราคาจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที​

การบริการ: รวดเร็ว พนักงานดูแลดีมาก แต่อาจจะมีหลุดๆไปบ้างช่วงพี้ค

ในเรื่องของการบริการ ร้านลีลาวดีมีทั้งด้านที่น่าชื่นชมและด้านที่น่าเห็นใจครับ

ด้านความเร็ว: ต้องชมเชยว่าระบบครัวของเขาจัดการได้ดีมาก แม้ร้านจะใหญ่และลูกค้าเยอะแค่ไหน แต่อาหารออกเร็วอย่างเหลือเชื่อ โดยปกติแล้วจานแรกมักจะมาเสิร์ฟภายในไม่เกิน 15 นาทีหลังจากสั่ง (ยกเว้นวันดวงซวยจริงๆ ที่อาจเจอแจ็คพอตระบบสะดุดหรือคนแน่นร้านแตกพ่อครัวแม่ครัวป่วยอะไรประมาณนั้น เคยมีคนรอ 1-2 ชั่วโมงก็เคยมีประวัติเหมือนกัน แต่นั่นคือนานๆ ครั้งครับ)​

ด้านความใส่ใจ: พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่ตั้งใจบริการครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ด้วยความที่ร้านกว้างมาก พนักงานบางทีก็ดูแลไม่ทั่วถึงในช่วงพีคๆ

และนี่คือจุดที่ผมต้องพูดถึงอย่างตรงไปตรงมา นั่นคือมีความรู้สึกว่ามีการ เลือกลูกค้า ที่หลายคน(รวมถึงผม) เคยเจอ หากคุณเดินเข้าร้านไปกันแค่คนหรือ 2 คน ในช่วงเวลาที่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ลงร้านพร้อมกัน คุณอาจจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็น “พลเมืองชั้นสอง” ขึ้นมาทันที การต้อนรับอาจจะล่าช้า การหาโต๊ะอาจจะดูเหมือนไม่กระตือรือร้นเท่ากับการรับรองกรุ๊ปทัวร์หรือครอบครัวใหญ่ 10 คน​

ตรงนี้เราเข้าใจในมุมของคนทำงานนะครับว่าและจะไม่ตำหนิร้านเลย เพราะด้วยธรรมชาติของคนจะรู้ว่ากลุ่มใหญ่มักจะเรื่องเยอะกว่า ถ้าไม่รีบจัดการอาจจะวุ่นวายได้ พนักงานจึงต้องรีบไป “รุม” ดูแลตรงนั้นก่อน มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้เสมอพนักงานไม่ใช่เทวดาที่จะเสกอะไรได้ทันที

แต่ในมุมของลูกค้าที่มากันน้อยคน ก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมเราถึงถูกปล่อยให้รอนาน ก็อยากฝากถึงทางร้านว่าถ้าบริหารจัดการจุดนี้ได้ดีขึ้น เทรนพนักงานให้กระจายความสนใจได้ทั่วถึง ประสบการณ์ของลูกค้าจะสมบูรณ์แบบมากครับ

เครื่องดื่ม: ค็อกเทลดีมาก แต่เรื่องเบียร์… ขอหักคะแนนหนักๆ

มาต่อกันที่เรื่องปากท้องหมวดของเหลวกันบ้าง สำหรับสายดื่มที่ชอบจิบเครื่องดื่มเคล้าบรรยากาศริมน้ำ ร้านลีลาวดีถือว่ามีตัวเลือกให้ค่อนข้างเยอะครับ ทั้งเหล้า ไวน์ และโดยเฉพาะ “ค็อกเทล” ที่ต้องชมเชยว่าทำออกมาได้ดี

เมนูค็อกเทลที่นี่มีให้เลือกเยอะพอสมควร โดยมีรายการมาตรฐานที่บาร์สากลควรจะมีครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Mojito, Margarita, Long Island หรือ Mai Tai รวมๆ แล้วน่าจะมีประมาณ 30 รายการได้ ซึ่งถือว่าครอบคลุมความต้องการพื้นฐานของนักดื่มได้ครบถ้วน

ในส่วนของราคาค็อกเทลนั้น ก็ถือว่าสมเหตุสมผลและจับต้องได้ครับ เริ่มต้นที่แก้วละ 170 บาท เมื่อเทียบกับบรรยากาศร้านระดับนี้และรสชาติที่ได้ ถือว่า “ไม่แพง” และเป็นราคาที่เป็นมิตรพอสมควรสำหรับใครที่อยากนั่งจิบสวยๆ ฟังเพลงชิลๆ

แต่… (และเป็น “แต่” ที่ตัวใหญ่มาก) สำหรับคอเบียร์ที่ตั้งใจจะมานั่งจิบเบียร์ไทยยอดนิยมอย่าง สิงห์, ช้าง หรือ ลีโอ คุณอาจจะต้องพกความผิดหวังกลับบ้าน หรือต้องจำใจดื่มสิ่งที่มี เพราะที่ร้านลีลาวดี “ไม่มีขาย” ครับ! ที่นี่จำหน่ายเฉพาะเบียร์ในเครือเดียวกันอย่าง ไฮเนเก้น (Heineken) และ ไทเกอร์ (Tiger) เท่านั้น

ตรงจุดนี้ ผมขอพูดจากใจจริงในมุมมองของผู้บริโภคเลยว่า มันให้ความรู้สึกเหมือนโดน “ปิดกั้นทางเลือก” หรือจะเรียกว่าโดนเอาเปรียบทางอ้อมก็คงไม่ผิดนัก เข้าใจครับว่าเป็นเรื่องของธุรกิจ หรืออาจจะมีดีลสปอนเซอร์ผูกขาด (Exclusive Deal) ระหว่างร้านกับบริษัทเครื่องดื่ม

แต่ในมุมของลูกค้าที่กำเงินมาจ่าย การที่ร้านระดับนี้ไม่มี “เบียร์ตลาด” มาตรฐานทั่วไปให้เลือก มันทำให้รู้สึกสะดุดและเสียอารมณ์อยู่ไม่น้อย เหมือนโดนบังคับกลายๆ ว่า “ถ้าจะกินเบียร์ร้านฉัน เธอต้องกินยี่ห้อนี้เท่านั้น” ซึ่งมันดูไม่ค่อยแฟร์กับลูกค้าที่ควรจะมีสิทธิ์เลือกเครื่องดื่มที่ตัวเองคุ้นเคย

และเมื่อดูราคาเบียร์ที่มีขาย ก็ต้องบอกว่า “ไม่ได้ถูก” เลยครับ เบียร์ไทเกอร์ขวดใหญ่ขายอยู่ที่ 115 บาท (ไม่มีโปรโมชั่น) ส่วนไฮเนเก้นขวดใหญ่อยู่ที่ 140 บาท แม้จะมีโปรโมชั่น 5 ขวด 599 บาท มาช่วยบรรเทาความแรงของราคาได้บ้าง แต่ก็ยังถือว่าเป็นรายจ่ายที่สูงเมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไปในเชียงราย

สรุปในเรื่องเครื่องดื่มนี้ ถึงแม้จะเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของร้านที่จะขายหรือไม่ขายอะไรก็ได้ แต่ผมมองว่าการตัดตัวเลือกพื้นฐานของผู้บริโภคออกไปแบบนี้ ทำให้ร้านดูมีโลกทัศน์ที่ “คับแคบ” ไปสักหน่อย

แทนที่จะเปิดกว้างต้อนรับลูกค้าทุกกลุ่ม กลับสร้างกำแพงกั้นเล็กๆ ที่น่าหงุดหงิดใจ สำหรับประเด็นเรื่องเบียร์นี้ ผมขออนุญาตให้คะแนนลบอย่างชัดเจนครับ เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าลูกค้าจะดื่มยี่ห้อไหน เงินก็เข้ากระเป๋าร้านอยู่ดี การมีทางเลือกที่หลากหลายย่อมซื้อใจลูกค้าได้มากกว่าการผูกขาดแน่นอน

ที่จอดรถ: สิ่งอำนวยความสะดวกที่มองข้ามไม่ได้

เรื่องสุดท้ายที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่สำคัญมากคือ “ที่จอดรถ” ลีลาวดีมีลานจอดรถขนาดใหญ่หน้าร้านที่จอดได้ถึง 40-50 คัน ทราบมาว่าทางร้านลงทุนเช่าที่ดินแปลงนี้ในราคาแพงหูฉี่เพื่อทำเป็นที่จอดรถโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นการแก้ Pain Point ของร้านอาหารดังๆ ในเชียงรายได้ดีมาก เพราะถ้าร้านอร่อยแต่ไม่มีที่จอด รถติด ลูกค้าก็หนีหมด​

แต่เตือนไว้นิดนึงครับว่า ถึงที่จอดจะเยอะ แต่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวก็ “เต็ม” ได้เหมือนกัน แนะนำว่าถ้าจะมาทานมื้อเย็น ควรมาถึงก่อน 6 โมงเย็นครับ จะได้ทั้งที่จอดรถทำเลดี ได้โต๊ะมุมสวยๆ และทันดูพระอาทิตย์ตกดินด้วย​

บทสรุป: ควรไปไหม?

ร้านอาหารลีลาวดี เชียงราย เป็นร้านที่ “ครบเครื่อง” ในแง่ของฟังก์ชันร้านอาหารสำหรับต้อนรับแขก

• ควรมาเมื่อ: คุณต้องการหาร้านที่ไว้ใจได้เพื่อพาผู้ใหญ่ ครอบครัวใหญ่ หรือเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่มาสังสรรค์ ต้องการบรรยากาศริมน้ำดีๆ มีดนตรีฟัง มีที่จอดรถสะดวก และอาหารรสชาติกลางๆ ที่ทุกคนกินได้
• อาจจะไม่เหมาะเมื่อ: คุณมาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ที่ต้องการความโรแมนติกแบบส่วนตัวสุดๆ (เพราะร้านอาจจะวุ่นวาย) หรือคุณที่กำลังตามล่าหาอาหารเหนือรสชาติต้นตำรับแบบฮาร์ดคอร์ (ถ้าแบบนั้น เดินไปร้านข้างๆ อย่างหลู้ลำ จะตอบโจทย์กว่า)

โดยรวมแล้ว ลีลาวดี คือร้านที่เป็นหน้าเป็นตาของเชียงรายได้ดีร้านหนึ่ง แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็เป็นร้านที่อยู่ในลิสต์ “ต้องไป” อันดับต้นๆ ของเมืองเชียงรายอยู่ดีครับ

พิกัด: ถนนแควหวาย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย (ติดกับร้านหลู้ลำ)​
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 11.00 – 23.00 น.
เมนูแนะนำ: ปลาคังผัดฉ่า, ยำลีลาวดี, ต้มยำปลาคัง
ข้อควรรู้ก่อนไป: เบียร์ขายเฉพาะ เบียร์ไทเกอร์ และ ไฮนาเก้น เท่านั้น
Google Maps: https://maps.app.goo.gl/PNqf72xfaqXhVguE6