|
ฟังเนื้อหา
Getting your Trinity Audio player ready...
|
ใครที่มาเยือนเชียงรายเมืองเหนือสุดแดนสยามที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาและศิลปะอาจจะนึกถึงอาหารเหนือรสชาติดั้งเดิมอย่างไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม หรือข้าวซอย แต่ใครจะรู้ว่าที่เชียงรายแห่งนี้ มีร้านแหนมเนืองร้านหนึ่งซ่อนตัวอยู่ แหนมเนืองร้านนี้ได้รับการขนานนามจากนักชิมและคนท้องถิ่นมากมายยกให้เป็นร้านแหนมเนืองที่อร่อยที่สุดในเชียงราย
วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับร้าน “สถานีแหนมเนือง” ร้านอาหารที่เป็นมากกว่าแค่ร้านอาหาร แต่เป็นเหมือนจุดนัดพบของครอบครัว เป็นสถานีแห่งความอร่อยที่คนรักสุขภาพและคนรักอาหารเวียดนามต้องปักหมุดไว้ในใจ
การเดินทางตามล่าหาของอร่อยครั้งนี้จะทำให้คุณลืมภาพร้านแหนมเนืองแบบเดิมๆ ไปเลยครับ เตรียมท้องของคุณให้พร้อม แล้วตามผมมาที่สถานีแห่งความสุขและความอร่อยแห่งนี้กันเลย!
จากใจกลางเมืองที่ตั้งของสถานีแหนมเนือง
การเดินทางไปร้านสถานีแหนมเนืองนั้นไม่ซับซ้อนเลย ร้านตั้งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกดอยสะเก็นพอดิบพอดี ใครที่ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงรายมุ่งหน้าไปทางอำเภอเวียงชัย หรือใช้ถนนบายพาสเส้นทางไปสนามบินแม่ฟ้าหลวงจะต้องผ่านสี่แยกนี้อย่างแน่นอน
จุดสังเกตง่ายๆ คือเมื่อคุณขับรถผ่านสี่แยกจากในเมืองมา ให้รีบชิดซ้ายทันทีก็จะเจอร้านเลยเรียกว่าอยู่ห่างจากสี่แยกไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำ ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดถนนใหญ่และมีป้ายร้านที่ชัดเจน ทำให้การค้นหาแทบไม่มีทางหลง
ที่อยู่เต็มๆ ของร้านคือ 50 หมู่ 3 บ้านดอยสะเก็น ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย ถ้าจะให้ง่ายที่สุดก็ไปตามหมุดใน Google Maps: https://maps.app.goo.gl/zHxbFbHQTCBd8nXC9
ความสะดวกสบายที่น่าประทับใจตั้งแต่ยังไม่ก้าวเข้าร้านคือที่จอดรถ ทางร้านมีลานจอดรถกว้างขวางอยู่หน้าร้านและบริเวณใกล้เคียง รองรับรถได้หลายสิบคัน
ที่นี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการวนหาที่จอดหรือต้องจอดริมถนนให้เสี่ยงเฉี่ยวชนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับร้านอาหารในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อคุณวางแผนจะพาครอบครัวใหญ่หรือกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์
สำหรับใครที่เดินทางมาเหนื่อยๆ หรือต้องการหาอะไรอร่อยๆ ทานก่อนขึ้นเครื่องบินกลับ ร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม เพราะอยู่ไม่ไกลจากสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมากนัก สามารถแวะเติมพลังก่อนเดินทางได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่า “ทานเสร็จปุ๊บก็พร้อมบินเลย” จริงๆ ครับ
ก้าวแรกสู่บรรยากาศอบอุ่น: ความประทับใจเมื่อมาเยือน
ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในบริเวณร้าน คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง และสะอาดตา ร้านถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ดูดี มีการแบ่งโซนที่นั่งให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบ ทั้งโซนห้องแอร์เย็นฉ่ำสำหรับวันที่อากาศร้อนอบอ้าว และโซนด้านนอกแบบ Open-Air สำหรับคนที่อยากนั่งรับลมธรรมชาติสบายๆ มองดูวิวสวนผักเล็กๆ ที่ทางร้านปลูกไว้ข้างๆร้าน
การตกแต่งภายในร้านมีลักษณะเหมือนในบ้านทำให้ความรู้สึกเหมือนมาทานข้าวที่บ้านเพื่อนหรือคนรู้จัก มีความอบอุ่นและเป็นกันเอง แม้บางช่วงเวลาที่ลูกค้าเยอะอาจจะดูคึกคักไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นร้านที่เหมาะกับการมานั่งทานข้าวกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมากๆ
โต๊ะเก้าอี้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ไม่แออัดจนเกินไป มีโต๊ะให้เลือกหลากหลายขนาด ไม่ว่าจะมากันเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว หรือมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็มีที่นั่งรองรับอย่างเพียงพอ
สิ่งที่น่าสนใจและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น คือบริเวณด้านข้างของร้านที่มีแปลงผักขนาดย่อมปลูกไว้อย่างสวยงาม นี่ไม่ใช่แค่สวนประดับ แต่เป็น “บุหรงฟาร์ม” ฟาร์มผักปลอดสารพิษของทางร้านเอง ซึ่งเป็นแปลงเล็กๆหลายแปลง และเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่ถูกส่งตรงเข้าครัวทุกวัน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าผักที่เรากำลังจะทานนั้นสดใหม่และปลอดภัยจริงๆ
นี่เป็นแหนมเนืองที่อร่อยที่สุดในเชียงรายจริงหรือ?
มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย นั่นก็คือเมนู “แหนมเนือง” ที่เป็นซิกเนเจอร์และเป็นที่มาของชื่อร้าน มีร้านแหนมเนืองที่อร่อยๆหลายร้านในเชียงรายแต่ร้านนี้ดูโดดเด่น สะอาด และดูเอาใจใส่กับเมนูมากที่สุด ทางเรากล้าพูดได้เลยว่าคำร่ำลือที่ว่า “อร่อยที่สุดในเชียงราย” ไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
เมื่อพนักงานนำชุดแหนมเนืองมาเสิร์ฟ สิ่งแรกที่สะดุดตาคือความอลังการของชุดผักสดที่ให้มาแบบจัดเต็ม ตะกร้าผักที่เต็มไปด้วยผักกาดหอม ผักแพว โหระพา สะระแหน่ และผักเคียงอื่นๆ อีกมากมาย ทุกใบดูสด กรอบ ชุ่มฉ่ำ และมีสีเขียวสดใสน่าทาน
นี่คือผลลัพธ์จากการที่ร้านปลูกผักเองในบุหรงฟาร์ม ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและความสดใหม่ได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าหลายคนถึงกับบอกว่า “ผักสดหวานมาก” หรือ “สดกรอบ ไม่ขมเลย” จนบางครั้งต้องขอผักกลับไปทานต่อที่บ้านเลยทีเดียว
มาดูกันที่องค์ประกอบหลักกันบ้าง หมูแหนมเนือง ของที่นี่มีความหอมนุ่มจากการย่างที่พอเหมาะ ไม่แข็งกระด้าง รสชาติกลมกล่อมลงตัว เครื่องเคียง ที่ให้มาก็ครบครัน ทั้งกล้วยดิบ แตงกวา กระเทียม พริก หั่นมาอย่างดีพร้อมให้เราจัดเรียงในคำห่อ แผ่นแป้ง ของทางร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คือจะแช่น้ำมาให้เรียบร้อยแล้วพร้อมห่อได้ทันที ซึ่งสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่ก็มีลูกค้าบางท่านให้คำแนะนำว่าการแยกแป้งกับน้ำมาให้ลูกค้าจุ่มเองอาจจะช่วยให้แป้งไม่เละและขาดง่ายเวลาห่อ ซึ่งก็เป็นข้อเสนอแนะที่น่าสนใจครับ
และส่วนที่ขาดไม่ได้เลยที่จะตัดสินว่าแหนมเนืองจานนั้นจะ “อร่อย” หรือไม่ ก็คือ “น้ำจิ้ม” ครับ น้ำจิ้มของสถานีแหนมเนืองคือพระเอกตัวจริง เป็นสูตรเด็ดของทางร้านที่มีรสชาติหวานนำ เผ็ดตามนิดๆ มีความเข้มข้นกำลังดีและหอมถั่วคั่วบดที่โรยมาอย่างดี
หลายเสียงยืนยันว่าน้ำจิ้มที่นี่ “เด็ด” และ “ถูกปาก” มากๆ เมื่อนำทุกองค์ประกอบมารวมกันในคำเดียว ทั้งความนุ่มของหมู ความสดกรอบของผัก ความนัวของเครื่องเคียง และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำจิ้ม มันคือความสมบูรณ์แบบที่ทำให้หลายคนยกให้ที่นี่เป็นที่หนึ่งในดวงใจจริงๆ ครับ
ร้านมีแหนมเนืองให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ชุดเล็กสำหรับ 1-2 คน ไปจนถึงชุดกลางและชุดใหญ่สำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ทำให้สามารถเลือกสั่งได้ตามความต้องการ ใครที่ชอบทานแหนมเนืองเป็นชีวิตจิตใจ บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่มีผิดหวัง และไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงหนองคายหรืออุดรธานี ก็สามารถลิ้มรสความอร่อยระดับตำนานได้ที่เชียงรายนี่เอง
มีมากกว่าแหนมเนือง: สำรวจเมนูเด็ดจานอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด
แม้ชื่อร้านจะเน้นที่แหนมเนือง แต่สถานีแหนมเนืองมีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายจนตาลายเลยครับ! ซึ่งแตกต่างจากร้านอาหารเวียดนามหลายๆ ร้านที่มักจะเน้นแค่ไม่กี่เมนู ที่นี่มีทั้งอาหารเวียดนามจานเด็ด อาหารไทยรสเลิศ อาหารเหนือต้นตำรับ ไปจนถึงอาหารทะเลสดๆ เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ จบทุกความต้องการของสมาชิกบนโต๊ะอาหาร
เรามาดูกันดีกว่าว่านอกจากแหนมเนืองแล้ว มีเมนูอื่นๆที่ห้ามพลาดบ้าง มาเริ่มกันเลย
- หมูย่างใบชะพลู (Bò Lá Lốt)
เมนูนี้ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามและถูกยกให้เป็นเมนูเด็ดที่ไม่แพ้แหนมเนืองเลย หมูหมักเนื้อนุ่มที่คลุกเคล้าเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทางร้าน ถูกนำไปห่อด้วยใบชะพลูแล้วย่างจนหอมกรุ่น กลิ่นหอมของใบชะพลูที่โดนความร้อนผสมกับกลิ่นหมูย่างนั้นช่างยั่วยวนใจ เสิร์ฟมาร้อนๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน หรือบางทีก็เป็นน้ำจิ้มหวานสูตรเฉพาะ มันคือความอร่อยที่ลงตัวจนหลายคนบอกว่า “อร่อยยังไง วันนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม” เป็นเมนูที่หมดเร็วมากในบางวัน ใครไปถึงร้านแล้วต้องรีบสั่งเลยครับ - กุ้งพันอ้อย (Chạo Tôm)
อีกหนึ่งเมนูทานเล่นสไตล์เวียดนามที่อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ เนื้อกุ้งบดปรุงรสที่เหนียวนุ่มถูกนำมาพันรอบแกนอ้อยแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบน่าทาน เวลาทานจะได้ทั้งความอร่อยของเนื้อกุ้งและความหวานหอมของน้ำอ้อยที่ซึมออกมา เป็นเมนูที่อร่อยกลมกล่อม ทานเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกุ้งพันอ้อยของที่นี่มีขนาดจัมโบ้ เนื้อแน่นเต็มคำ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง - ปลากะพงทอดน้ำปลา
ใครจะคิดว่าร้านอาหารเวียดนามจะทำเมนูอาหารไทยอย่างปลากะพงทอดน้ำปลาได้อร่อยขนาดนี้! ปลากะพงตัวโต สดใหม่ ถูกนำไปทอดจนหนังกรอบแต่เนื้อด้านในยังคงความนุ่มและชุ่มฉ่ำ ราดมาด้วยซอสน้ำปลาสูตรพิเศษของทางร้านที่เคี่ยวจนได้รสชาติเค็มหวานกำลังดี เสิร์ฟคู่กับน้ำยำมะม่วงรสแซ่บที่ช่วยตัดเลี่ยนและเสริมรสชาติได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นจานหลักที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนบนโต๊ะได้เสมอ - ข้าวเกรียบปากหม้อญวน (Bánh Cuốn)
เมนูนี้คือตัวแทนของความประณีต แป้งข้าวเกรียบปากหม้อของที่นี่มีความบาง ใส และเหนียวนุ่ม ห่อไส้ที่อัดแน่นไปด้วยหมูสับ เห็ดหอม และเครื่องปรุงต่างๆ ที่ผัดจนหอมกรุ่น ตัวไส้มีรสชาติกลมกล่อมในตัวอยู่แล้วจนแทบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม แต่เมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มหวานใส่ถั่วและหอมเจียวที่เสิร์ฟมาด้วยกัน ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีกระดับ เป็นเมนูที่แสดงให้เห็นถึงฝีมือและความใส่ใจในรายละเอียดของเชฟได้เป็นอย่างดี - ต้มยำญวนมะพร้าวอ่อน
สำหรับคนชอบซดน้ำซุปร้อนๆ ต้องลองเมนูนี้ครับ เป็นต้มยำที่ไม่เหมือนใคร เพราะใช้น้ำมะพร้าวอ่อนเป็นเบสของน้ำซุป ทำให้ได้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมของมะพร้าวที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ พร้อมด้วยเครื่องทะเลสดๆ หรือเนื้อปลา และมีเนื้อมะพร้าวอ่อนให้เคี้ยวเพลินๆ เป็นรสชาติที่แปลกใหม่แต่อร่อยลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยำหมูยอหนัง ที่รสชาติจัดจ้านถึงใจ, ทอดมันกุ้ง ที่กรอบนอกนุ่มใน, เฝอ น้ำซุปกลมกล่อม, ส้มตำ รสแซ่บที่มีทั้งตำไทย ตำปลาร้า หรือแม้กระทั่งตำกระท้อนตามฤดูกาล และ อาหารทะเลสดๆ อย่างหมึกนึ่งมะนาวหรือปูผัดผงกะหรี่ที่หลายคนยืนยันว่าสดเหมือนยกทะเลมาไว้ที่เชียงรายเลยทีเดียว
เบื้องหลังความอร่อย: Q Restaurant และฟาร์มผักปลอดสารพิษ
ความอร่อยของอาหารที่สถานีแหนมเนืองไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ แต่มีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความใส่ใจและความมุ่งมั่นของคุณ อัจฉริกาญจน์ วงแก้ว ผู้เป็นเจ้าของร้าน ที่ต้องการจะเสิร์ฟอาหารที่ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ต้อง “ปลอดภัย” และ “ดีต่อสุขภาพ” ของลูกค้าทุกคนด้วย
หัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านนี้แตกต่างคือการที่ร้านมีฟาร์มผักปลอดสารพิษของตัวเองในชื่อ “บุหรงฟาร์ม” ผักทุกชนิดที่ใช้ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นผักสดในชุดแหนมเนือง หรือผักที่ใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอื่นๆ ล้วนถูกปลูกและดูแลอย่างพิถีพิถัน ปราศจากการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ ทางร้านได้นำใบรับรองมาตรฐานต่างๆ จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาติดไว้ให้เห็นกันชัดๆ ที่ผนังร้าน เป็นเหมือนเครื่องยืนยันที่เป็นรูปธรรมว่า “เราใส่ใจคุณจริงๆ” การได้เห็นแปลงผักและใบรับรองด้วยตาตัวเอง ทำให้เราทานอาหารทุกคำได้อย่างสบายใจและมั่นใจในคุณภาพ
ความมุ่งมั่นนี้ยังส่งผลให้ร้านสถานีแหนมเนืองได้รับคัดเลือกให้เป็น “Q Restaurant” อีกด้วย หลายคนอาจจะสงสัยว่า Q Restaurant คืออะไร?
Q Restaurant คือโครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยที่ริเริ่มโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในระดับจังหวัด ที่เลือกใช้วัตถุดิบปลอดภัยและสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ “Q” ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองว่าสินค้าเกษตรนั้นๆ มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล
โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการทานอาหารที่ปลอดภัย และยังเป็นการสร้างช่องทางให้ร้านอาหารสามารถรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่ได้มาตรฐานจากเกษตรกรโดยตรง เป็นการสร้างความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
การที่สถานีแหนมเนืองได้รับตราสัญลักษณ์นี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของความอร่อย แต่เป็น “การการันตี” คุณภาพและความปลอดภัยในระดับประเทศ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงปรัชญาของร้านที่ไม่ใช้ผงชูรสหรือผงปรุงรสสังเคราะห์ใดๆ แต่เน้นดึงรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบคุณภาพออกมาให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ทุกคำที่คุณทานที่นี่ จึงเป็นความอร่อยที่มาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
เสียงจากลูกค้า: ประสบการณ์จริงที่หลากหลาย
เสียงสะท้อนจากลูกค้าที่เคยไปใช้บริการจริงๆส่วนใหญ่แล้วออกมาทางบวก ซึ่งร้านสถานีแหนมเนืองก็มีเรื่องเล่ามากมายจากลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งขาประจำที่ทานกันมาเป็นสิบปี และนักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาลิ้มลองเป็นครั้งแรก
มีเรื่องราวที่น่าประทับใจของลูกค้าท่านหนึ่งที่เล่าว่า ทานร้านนี้ตั้งแต่ยังไม่มีลูก ร้านเก่าก่อนที่จะย้ายมาตรงนี้ จนตอนนี้ลูกสาว 8 ขวบแล้ว เวลามาเชียงรายก็ยังมาทานร้านนี้ตลอด เรื่องราวแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพที่คงเส้นคงวาและความผูกพันที่ร้านได้สร้างไว้กับลูกค้าตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี จากร้านเก่าสู่ร้านใหม่ที่ใหญ่โตและสะดวกสบายขึ้น แต่รสชาติความอร่อยอันเป็นที่คุ้นเคยยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
แน่นอนว่าไม่มีร้านอาหารไหนที่จะถูกใจทุกคน 100% ที่สถานีแหนมเนืองก็เช่นกัน มีเสียงติชมในประเด็นต่างๆ ที่ทางร้านเองก็เปิดใจรับฟังอย่างน่ายกย่อง เช่น บางท่านรู้สึกว่ารสชาติอาหารบางเมนูติดหวานไปหน่อย
ซึ่งอาจจะเป็นรสชาติที่ถูกปรุงให้เป็นกลางๆ เพื่อให้ทานได้ทุกเพศทุกวัย หรือบางท่านอาจเจอประสบการณ์ที่เครื่องดื่มมาเสิร์ฟช้ากว่าอาหาร โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนๆ ซึ่งเป็นจุดที่ทางร้านสามารถนำไปปรับปรุงต่อไปได้
แต่สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือ “การรับมือกับปัญหา” มีลูกค้าท่านหนึ่งเคยเจอปัญหาว่าเมนูแหนมคลุกมีรสชาติเค็มเกินไป เมื่อแจ้งพนักงานไป ทางร้านก็ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการทำมาให้ใหม่ถึงสองครั้ง และเมื่อลูกค้าแสดงความไม่พอใจตอนเช็คบิล ทางร้านก็พร้อมที่จะไม่คิดเงินค่าอาหารจานนั้นทันที
ยิ่งไปกว่านั้นทางเจ้าของร้านยังได้ยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดจริงและขออภัยอย่างจริงใจและน้อมรับคำติชมเพื่อนำไปปรับปรุง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจในความรู้สึกของลูกค้าอย่างแท้จริง การกระทำเช่นนี้เปลี่ยนจากข้อผิดพลาดให้กลายเป็นความน่าประทับใจ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีความหมาย
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประสบการณ์ก็มีทั้งด้านบวกและด้านที่ต้องปรับปรุง บางท่านถึงกับยกให้เป็น “มื้อที่ดีที่สุดในประเทศไทย” ชื่นชมในรสชาติที่ยอดเยี่ยมของทุกเมนูที่สั่ง
ในขณะที่บางท่านอาจพบกับอุปสรรคด้านภาษาเนื่องจากไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ หรือเจอปัญหาเมนูบางอย่างหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ ทางที่ดีที่สุดคือลองใช้ภาพในเมนูหรือแอพแปลภาษาช่วย และเลือกสั่งเมนูแนะนำของร้าน รับรองว่าจะได้สัมผัสรสชาติที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: ความใส่ใจในรายละเอียดและเรื่องน่ารักๆ ของร้าน
- มีเบียร์ขายนะ (ฮา): ถึงแม้ร้านจะชูจุดเด่นเรื่องอาหารสุขภาพ ผักปลอดสารพิษ แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดจนน่าเบื่อนะครับ สำหรับใครที่อยากเพิ่มอรรถรสในการทานอาหาร ที่ร้านก็มีเบียร์เย็นๆ ไว้บริการด้วย เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความอร่อย สุขภาพ และความสุนทรีย์ในการกินดื่ม!
- มีที่ล้างมือก่อนกินแหนมเนือง: ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่น่ารักมาก คือการจัดเตรียมอ่างล้างมือไว้ให้ลูกค้าได้ทำความสะอาดมือก่อนลงมือห่อแหนมเนือง เป็นรายละเอียดที่แสดงให้เห็นว่าร้านใส่ใจเรื่องสุขอนามัยจริงๆ
- พนักงานบริการดี: แม้จะมีบางช่วงเวลาที่อาจจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง แต่โดยรวมแล้วพนักงานของร้านได้รับการชื่นชมว่าสุภาพ บริการดี รับออเดอร์รวดเร็ว และมีการทวนรายการอาหารเพื่อป้องกันความผิดพลาดเสมอ
- อาหารออกเร็วมาก: ลูกค้าหลายท่านประหลาดใจกับความเร็วในการทำอาหารของที่นี่ สั่งอาหารไปไม่นานก็ทยอยมาเสิร์ฟแล้ว เหมาะสำหรับคนที่หิวโซหรือมีเวลาน้อย
- ของหวานก็เด็ด: อย่าเพิ่งอิ่มจากของคาวนะครับ เพราะที่นี่มีของหวานโฮมเมดที่อร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน ที่หอมหวานชื่นใจ, ลูกตาลลอยแก้ว หวานเจี๊ยบ หรือ ไอศกรีมโฮมเมด รสชาติต่างๆ เช่น ลิ้นจี่ ชาเขียว หรือรัมเรซิ่น เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบ
บทสรุป: สถานีแหนมเนือง จุดหมายที่คนรักอาหารต้องมาเยือน
กลับมาที่คำถามตั้งต้นที่ว่า “สถานีแหนมเนือง คือร้านแหนมเนืองที่อร่อยที่สุดในจังหวัดเชียงรายจริงหรือ?”
หลังจากที่ได้พาทุกคนไปสำรวจทุกแง่มุมของร้าน ทั้งทำเลที่ตั้ง บรรยากาศ เมนูอาหารอันหลากหลาย ปรัชญาเบื้องหลังความอร่อยที่มาจากฟาร์มผักของตัวเอง และการได้รับรองมาตรฐาน Q Restaurant ไปจนถึงเสียงสะท้อนจากลูกค้าตัวจริง ผมเชื่อว่าหลายคนคงได้คำตอบในใจแล้ว
สำหรับผม “สถานีแหนมเนือง” ไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เป็นที่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอาหารที่ “อร่อย” กับ “ดีต่อสุขภาพ” สามารถอยู่คู่กันได้อย่างลงตัว ความคงเส้นคงวาในรสชาติที่ทำให้ลูกค้าเก่าแวะเวียนกลับมาเสมอ ความใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การปลูกผักไปจนถึงการบริการ และความหลากหลายของเมนูที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าร้านแหนมเนืองธรรมดาๆ
หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนจังหวัดเชียงราย ลองหาเวลาแวะมาที่ “สถานี” แห่งนี้ดูสักครั้งนะครับ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 น. ถึง 20:00 น. (ครัวอาจจะปิดเร็วกว่านั้นเล็กน้อย)
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารเวียดนาม เป็นสายสุขภาพที่มองหาวัตถุดิบปลอดภัย หรือเป็นแค่นักเดินทางที่ตามหาของอร่อย ผมมั่นใจว่า “สถานีแหนมเนือง” จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และอาจจะกลายเป็นสถานีโปรดที่คุณต้องแวะทุกครั้งที่มาเชียงรายก็เป็นได้ครับ
